วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่15


วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 

ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากอาจารย์ให้แต่ละกลุ่มไปเตรียมสื่อต่าง ๆ ที่จะไปจัดโครงการ

บันทึกการเรียนครั้งที่14


วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 
ปรึกษาโครงการกับอาจารย์ เพื่อไปจัดในสัปดาห์หน้า




วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่13


วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 
  • กิจกรรมการเรียนการสอนวันนี้ อาจารย์ชี้แจงเรื่องโครงการให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มฟังพร้อมทั้งรายละเอียดต่างๆในการทำโครงการ


การประเมินผล
ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังอาจารย์ชี้แจงในการทำโครงการและจดบันทึก
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจฟังและไม่คุยกัน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น


วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่12

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2559
  • กิจกรรมการเรียนการสอนวันนี้ อาจารย์ให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาพูดเกียวกับปัญหาที่พบเจอในการไปแจกแบบสอบถามความต้องการของผู้ปกครองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเจออุปสรรคอะไรกันบ้าง
กลุ่มที่ 1 

กลุ่มที่ 2

กลุ่มที่ 3

กลุ่มที่ 4

กลุ่มที่ 5

  • กิจกรรมต่อมาอาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มรวบรวมแบบสอบถามและวิเคราะห์แบบสอบถามความต้องการของผู้ปกครอง ตั้งแต่ข้อมูลทั่วไปจนถึงข้อคำถามเพื่อเรียงลำดับความต้องการของผู้ปกครองว่าผู้ปกครองต้องการรู้เรื่องใดมากที่สุด เพื่อเป็นการตัดสินใจเลือกทำโครงการให้ความรู้ผู้ปกครองต่อไป

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนองานในแต่ละกลุ่ม
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจฟังและไม่คุยกันในขณะเพื่อนนำเสนองาน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่11


วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2559 
ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากเป็นวันหยุดชดเชย วันปิยมหาราช

วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

บันทึกการเรียนครั้งที่10


วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2559 
  

     ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากอาจารย์ให้นักศึกษาออกไปสำรวจความต้องการของผู้ปกครองเกี่ยวกับการทำโครงการการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือของการสำรวจ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่9


วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2559 
วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง การเขียนโครงการให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

            อาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม แล้วให้นักศึกษาช่วยกันในกลุ่มระดมความคิดเกี่ยวกับการทำโครงการ เพื่อออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียน

กลุ่มที่1 ฟ.ฟัน ฟันสวย


กลุ่มที่2 การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย


กลุ่มที่3 หนังสือนิทานสร้างสรรค์สานสัมพันธ์สำหรับครอบครัว


กลุ่มที่4 อาหารเด็กวัยใส


กลุ่มที่5 สื่อรักแสนสนุกเสริมสร้างเพื่อลูกน้อย


ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนองานในแต่ละกลุ่ม
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจฟังและไม่คุยกันในขณะเพื่อนนำเสนองาน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น


บันทึกการเรียนครั้งที่8


วันจันทร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2559 
        วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการให้ความรู้ผู้ปกครอง
กลุ่มที่1 งานวิจัยเรื่อง : การให้ความรู้ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการรู้หนังสือของเด็กวัยเตาะแตะ

กลุ่มที่2 งานวิจัยเรื่อง : การประยุกต์กระบวนการจิตตปัญญาศึกษาและเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการส่งเสริมความรู้เด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครอง

 กลุ่มที่3 งานวิจัยเรื่อง : การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วมร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้

กลุ่มที่4 งานวิจัยเรื่อง : การศึกษาความต้องการของผู้ปกครองเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ควรปลูกฝังและพฤติกรรมที่ปรากฎด้านคุณธรรมของเด็กปฐมวัย

 กลุ่มที่5 งานวิจัยเรื่อง : การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามหลักสังคหวัตถุ4 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์

กลุ่มที่6 งานวิจัยเรื่อง : ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการจัดการศึกษาปฐมวัย

กลุ่มที่7 งานวิจัยเรื่อง : ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสถานศึกษา จ.ปทุมธานี

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนองานในแต่ละกลุ่ม
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจฟังและไม่คุยกันในขณะเพื่อนนำเสนองาน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สอบกลางภาค


วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ.2559 
 ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากสอบกลางภาค


วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

บันทึกครั้งที่6


วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2559 

บทที่5 รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา


        สถานศึกษาปฐมวัยจะต้องทำหน้าที่และร่วมกันรณรงค์เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและการมีส่วนร่วมกับการศึกษาปฐมวัย โดยจะต้องพัฒนาทั้งความรู้และทักษะ เพื่อนำไปใช้กับเด็กอย่างถูกวิธี  
รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน
ข่าวสารประจำสัปดาห์
เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียนและแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลประจำสัปดาห์ประกอบไปด้วย
- รายละเอียดของสาระการเรียนรู้ ประสบการณ์และกิจกรรมที่สถานศึกษาวางแผนไว้ประจำสัปดาห์
- พัฒนาการและการเรียนรู้ที่เด็กได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม
- กิจกรรมครอบครัวเป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ ร่วมทำกับเด็กโดยในข่าวสารจะเสนอแนะกิจกรรมต่างๆ เช่น ประดิษฐ์ของเล่นสำหรับเด็ก เกม วาดภาพระบายสี เพลงคำคล้องจอง ปริศนาคำทาย ฯลฯ
- เรื่องน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง เป็นการให้ข้อมูลความรู้เพื่อนำไปอบรมเลี้ยงดู ส่งเสริมพัฒนาการเด็กหรือแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็ก
- ข้อเสนอแนะของผู้ปกครอง เป็นการให้ผู้ปกครองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการสนับสนุนและพัฒนาเด็กให้ดียิ่งขึ้น



จดหมายข่าวและกิจกรรม
เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครองในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็กโดยจัดส่งให้ผู้ปกครองในทุกสัปดาห์หรือตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่นำเสนอในจดหมายข่าวและกิจกรรมอาจจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังนี้
    - ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็กและผู้ปกครอง
    - กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการสำหรับผู้ปกครอง เช่น นิทาน ศิลปะ ภาษา ฯลฯ
    - ความรู้สำหรับผู้ปกครอง ฯลฯ
การพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กต่ำกว่า3ปีผ่านโรงพยาบาลชุมชนและสถานีอนามัย
เป็นโครงการภายใต้งานวิจัยของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขเกิดจากความต้องการให้ครอบครัวเป็นหลักของการพัฒนาเด็กในช่วงอายุต่ำกว่า3 ปี ด้วยการให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นผู้เลี้ยงดูที่มีคุณภาพ โดยใช้รูปแบบการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ประกอบด้วย 4 รูปแบบ คือ
    - วิธีกระบวนการเรียนรู้โดยการมีส่วนร่วม
    - วิธีการสนทนากลุ่ม
    - วิธีอภิปรายกลุ่ม
    - วิธีการบรรยาย  
โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
ดำเนินงานโดยสำนักสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต เป็นโครงการที่มุ่งเร่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนไทย โดยผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมที่สำคัญ ด้วยการจัดทำชุดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง ประกอบด้วย
    - แบบสังเกตความคิดสร้างสรรค์ในเด็กสำหรับพ่อแม่
    - คู่มือความรู้และการจัดกิจกรรมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
    - หลักสูตรการเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์
    - ซีดีการเรียนรู้ด้วยตนเองเรื่อง  “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
    - จัดอบรมพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่อง  “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”




ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง
จัดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียนของทุกห้องเรียนโดยนำข้อมูลความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครอง จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
    - ข้อมูลจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสาร
    -  เกร็ดความรู้หรือสาระน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง
    - ภาพถ่ายกิจกรรมในชั้นเรียน
    - ผลงานแห่งความภาคภูมิใจ
    - กิจกรรมในโอกาสพิเศษ เช่น ทัศนศึกษา การแสดงในวันปีใหม่ ฯลฯ


การสนทนา
การสนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่เข้าถึงและตรงมากที่สุดการสนทนาเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อผู้ปกครองและช่วยในการให้ความรู้ผู้ปกครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนทนาดังนี้
- เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเด็ก
-   เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียน
-   เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กขณะที่อยู่ที่โรงเรียนและที่บ้าน

รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา
ห้องสมุดผู้ปกครอง
เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆอันเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา การอบรมเลี้ยงดู การส่งเสริมพัฒนาการเด็กการจัดการศึกษาซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและส่งผลต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ 



ป้ายนิเทศ
ป้ายนิเทศในลักษณะนี้เป็นป้ายที่จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา ลักษณะของป้ายประกอบด้วย ภาพ ตัวอักษร ของจริง แผนภูมิ สถิติ ฯลฯ ป้ายนิเทศจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
    - ข้อมูลการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น ปรัชญา นโยบาย วัตถุประสงค์ ฯลฯ
    - ข่าวสารประจำวันจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ฯลฯ
    - ข่าวของสถานศึกษา เช่น การประชุม สัมมนา กิจกรรมต่างๆ
    - ประกาศต่างๆ ของทางโรงเรียน เช่น วันหยุด นัดประชุมฯลฯ
    - ข่าวสารบริการต่างๆ เช่น แนะนำสถานศึกษา ข้อมูลกิจกรรมของเด็ก
    - กิจกรรมของสถานศึกษา เช่น กิจกรรมวันครู วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ
    - ป้ายสำหรับผู้ปกครองในการแสดงความคิดเห็น



โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองดังกล่าวเป็นรูปแบบของการพัฒนาศักยภาพของผู้ปกครองให้มีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมพัฒนาการตลอดจนการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก 
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติได้จัดทำแผนงานพัฒนาพ่อแม่ผู้ปกครองสมาชิกในครอบครัวและผู้ที่เตรียมตัวเป็นพ่อแม่ ดังนี้
   - สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
   - จัดบริการเสริมความรู้ ความเข้าใจ ฝึกทักษะให้พ่อแม่ ครอบครัวคู่สมรสมีความเข้าใจในวิธีเลี้ยงดูเด็ก
   - ส่งเสริมให้องค์กรของรัฐ เอกชน ท้องถิ่นจัดฝึกอบรมให้แก่พ่อแม่ คู่สมรสใหม่และผู้ปกครอง
   - สนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
   - จัดให้มีวิธีการประเมินผลการพัฒนาเด็กปฐมวัยโดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง  


นิทรรศการ
เป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครองได้อย่างกว้างขวางรูปแบบหนึ่งด้วยการใช่สื่อหรืออุปกรณ์หลายชนิดในการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเช่น ภาพเขียน ภาพถ่าย สถิติ หุ่น ผลงานเด็ก ภาพยนตร์ วีดีโอและซีดีซึ่งมีรูปแบบของนิทรรศการที่สามารถจัดได้ในสถานศึกษาดังนี้
    - นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์
    - นิทรรศการเพื่อให้ความรู้
    - นิทรรศการเพื่อความบันเทิง  


มุมผู้ปกครอง
เป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองในระหว่างการเยี่ยมชมโรงเรียน การรอรับ-ส่งเด็ก หรือพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ปกครองหรือครู เป้าหมายสำคัญของการจัดมุมผู้ปกครอง
- เพื่อให้ผู้ปกครองได้ใช้เวลาว่างระหว่างการรอรับ-ส่งเด็ก ให้เกิดประโยชน์ด้วยการอ่านหนังสือ ฯลฯ
- เป็นบริเวณที่ให้ผู้ปกครองได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ปกครองด้วยกัน
- เพื่อผู้ปกครองและเด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกันตามความเหมาะสมในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อ่านหนังสือ ดูภาพกิจกรรมของเด็ก ชมผลงานเด็ก ฯลฯ


การประชุม
เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุดซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของถานศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายจุดประสงค์ของการจัดประชุมผู้ปกครองมีดังนี้
- เพื่อแถลงนโยบายการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
- แลกเปลี่ยนทัศนคติระหว่าสถานศึกษากับผู้ปกครอง
- แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงาน
- ประสานงานและทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง
- สร้างความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับครู
- พัฒนาความรู้ความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก การจัดการศึกษา ฯลฯ

จุลสาร
เป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆ ด้าน ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบความเคลื่อนไหวและเพื่อประชาสัมพันธ์ เนื้อหาในจุลสารจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนของบรรณาธิการ  เรื่องราวของเด็กๆ บทความรู้ และเบ็ดเตล็ด การจัดทำจุลสารเพื่อให้มีความน่าสนใจ โดยพิจารณาดังนี้
- เนื้อหาความรู้ที่นำเสนอ  
- จัดทำรูปเล่มให้น่าสนใจ
- ภาพประกอบมีสีสันสวยงาม  
- ภาษาไม่ควรจะเป็นวิชาการมากเกินไป
- ควรมีคอลัมน์สำหรับผู้ปกครอง

คู่มือผู้ปกครอง
เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป ข้อมูลในคู่มือผู้ปกครองประกอบไปด้วย
- ปรัชญาและเป้าหมายของสถานศึกษา
- หลักสูตรและการจัดประสบการณ์
- บุคลากรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ
- อาคาร สถานที่ สภาพแวดล้อม
- การจัดบริการและสวัสดิการต่างๆ
- กฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน
- การวัดและประเมินผล

ระบบอินเทอร์เน็ต
เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้เพื่อการเรียนการสอน และเวิลด์ไวด์เวป  (WWW.)  การใช้อินเทอร์เน็ตในการให้ความรู้ผู้ปกครองนับเป็นบริการด้านหนึ่งที่สถานศึกษาสามารถจัดทำในรูปแบบ เวิลด์ไวด์เวป  บริการให้ความรู้ผู้ปกครองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่สถานศึกษาบรรจุลงในเว็บไซด์ สามารถให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ
- ข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา  - เครือข่ายสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง
- สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก 
- กิจกรรมสำหรับผู้ปกครองและเด็ก
- กิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข่าวสาร ข้อมูล
- คำถามของผู้ปกครอง

        รูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองดังกล่าว สถานศึกษาสามารถจัดให้บริการแก่ผู้ปกครอง โดยมีข้อคิดที่สำคัญคือการคิดหาสื่อและช่องทางที่จะทำให้ความรู้ต่างๆ ถึงผู้ปกครองอย่างถั่วถึง รวดเร็ว และมีการตอบกลับ เพื่อให้สถานศึกษาได้รับรู้ว่าผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทของตนเองต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและทำให้การศึกษาระหว่างบ้านและสถานศึกษามีความเข้าใจที่ตรงกัน ทำให้การศึกษาเกิดแนวคิดต่อการพัฒนารูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพมากสูงสุด  


คำถามท้ายบทที่ 5

1. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน ครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ
2. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ
3. นักศึกษามีวิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย 
ตอบ
4. การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ
5. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น
ตอบ